วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 61 พ.ต.ท.หม่อมหลวงกิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการ เซ็กซี่บาคาร่า จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยเหล่ากาชาดจังหวัดกระบี่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปที่บ้านของนางเปลี่ยว เพชรพวง อายุ 111 ปี ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ที่ 4 ตำบลเขาเขน อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ ตามโครงการเยี่ยมบ้านผู้สูงอายุ 100 ปี เพื่อตรวจเยี่ยมความเป็นอยู่และมอบของขวัญปีใหม่ให้เป็นกำลังใจ เมื่อคณะฯไปถึง ได้พบกับนางเปลี่ยว นั่งอยู่บนขนำหน้าบ้าน ด้วยท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใสอารมดี พร้อมกับให้พรกับทุกคน ขอให้มีร่างกายแข็งแรงเหมือนกับตนเอง
นายกิตติ อินทรกุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกระบี่
กล่าวว่า สำหรับยายเปลี่ยว เกิดเมื่อปี พ.ศ.2450 รวมอายุ 111 ปี จากการสำรวจผู้สูงอายุ 100 ปี ขึ้นไป ของจังหวัดกระบี่ พบว่านางเปลี่ยวมีอายุมากที่สุดเกิดในสมัยรัชกาลที่ 5 ปัจจุบันสุขภาพโดยรวมถือว่ายังแข็งแรง ตามองเห็น หูยังได้ยินค่อนข้างดี สามารถสื่อสารกับคนที่ไปพบปะพูดคุยได้เหมือนกับคนปกติทั่วไป และยังสามารถเดินได้โดยไม่ต้องใช้ไม้เท้าซึ่งถือว่าเป็นผู้สูงอายุที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง คนหนึ่ง ปัจจุบันอาศัยอยู่กับลูกๆหลานๆคอยดูแลอย่างดี
โดยยายทวดเปลี่ยว ได้บอกเคล็ดลับ ของการทำให้มีชีวิต อายุยืนยาวว่า ทานผัก นำพริก เป็นหลัก ไม่ทานเนื้อ หรือทานเพียงน้อยนิด และจะไม่อยู่นิ่งทำทุกอย่างที่ทำได้ เหมือนกับการออกกำลังกายไปในตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่ทาง ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้เดินมาขึ้นรถเพื่อไปเยี่ยมผู้สูงอายุ 100 ปี รายต่อไป นางเปลี่ยว ได้เดินมาส่งที่รถ โดยใช้มือข้างซ้ายควงแขน ของผู้ว่าฯไว้ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเปี่ยมไปด้วยความสุข ไม่มีท่าทีว่ายายทวดเปลี่ยวจะมีความรู้สึกเหนื่อยหอบแต่อย่างใด ทำให้ผู้ที่ร่วมขบวนมากับ
ผู้ว่าฯต่างทึ่งในความแข็งแรงของยายทวดเปลี่ยว ถึงแม้ว่าอายุจะมากถึง 111 ปี แต่สุขภาพยังแข็งแรง
ควบคู่ไปกับการตอบสนองทีละน้อยอย่างช้า ๆ ของรัฐบาล การเดิมพันที่ไม่ดีกับวัคซีน Sinovac ที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพในการต่อต้านสายพันธุ์ใหม่ และการธนาคารชาตินิยมของรัฐบาลในการผลิตวัคซีน AstraZeneca ในประเทศที่ติดหล่มจากความล่าช้า และขณะนี้ตั้งเป้าที่จะส่งมอบครึ่งหนึ่งของปริมาณเดิม วัคซีนประเทศไทยล้มเหลวในการรับมือการระบาดใหญ่ในพื้นที่
ขณะนี้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รายงานว่า การล็อกดาวน์ปี 2563 ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของไทยหดตัวลง 6.1% ในขณะที่การจัดการที่ผิดพลาดของการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 3 ทำสถิติผู้ติดเชื้อรายวัน และจำนวนผู้เสียชีวิตในแต่ละวันเทียบเคียงได้ จนถึงจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดในปี 2563
กระบี่ ก็มีแล้วนะ TAXI OK ภายใต้มาตรฐาน “รับทุกท่าน ไปทุกที่ มั่นใจไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร ทางเลือกใหม่ของผู้โดยสาร
วันที่ 6 ก.พ.61 นางลัดดาวัลย์ ชิณณะเสถียร ขนส่งจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า จังหวัดกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำมากส่งผลให้เกิดรถบริการสาธารณะทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมายตามมาเป็นจำนวนมากวิ่งให้บริการนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ บางครั้งมีการแย่งชิงผู้โดยสารกันถึงขั้นข่มขู่ทำร่างกายกันก็ยังมี นอกจากนี้แล้วผู้ประกอบการบางรายที่เห็นนักท่องเที่ยวเป็น “เหยื่อ” ก็มีการเรียกเก็บอัตราค่าโดยสารที่สูงลิ่วแพงเกินจริงซึ่งมีการร้องเรียนกันอยู่บ่อยครั้ง
ขนส่งจังหวัดกระบี่ กล่าวด้วยว่า เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการและความปลอดภัยของรถแท็กซี่
ให้ผู้โดยสารมีทางเลือกในการใช้บริการระบบรถสาธารณะที่ดี มีคุณภาพ ราคาเป็นธรรม และเข้าถึงได้สะดวก ประกอบกับเพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่
สำนักงานขนส่งจังหวัดกระบี่จึงได้ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรถแท็กซี่มิเตอร์ในจังหวัดกระบี่ เข้าร่วมโครงการฯ ขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาและยกระดับรถแท็กซี่ “TAXI OK” ของกรมการขนส่งทางบก
ทั้งนี้ ในระยะแรก มีผู้ประกอบการนำรถเข้าร่วมโครงการ “TAXI OK” จำนวน 7 คัน
และรถส่วนที่เหลือซึ่งจดทะเบียนไว้เดิมจำนวน 17 คัน จะมีการทยอยติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมจนครบทุกคันในเร็วๆ นี้ ภายใต้มาตรฐาน “รับทุกท่าน ไปทุกที่ มั่นใจไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร รถใหม่สะอาด นั่งสบาย ราคามาตรฐานและจำกัดความเร็ว ไม่เกิน 90 กม./ชั่วโมง ตามที่กฎหมายกำหนด ” หากผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวกเกี่ยวกับการใช้บริการสามารถแจ้งข้อมูล หรือร้องเรียนได้ที่ สายด่วนหมายเลข 1584 ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับรถแท็กซี่ดังกล่าวใช้ระบบอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารหลายด้านตั้งแต่การเรียกรถเพื่อใช้บริการซึ่งสามารถโบก เรียกได้ตามปกติหรือโทรศัพท์ไปยังสหกรณ์แท็กซี่ และทางแอพพลิเคชั่น
เมื่อลูกค้าใช้บริการก็จะมีระบบตรวจสถานที่ตั้งหรือจีพีเอสตลอดระยะทางการเดินทาง กล้องถ่ายภาพหรือสแน็บช็อต
ปุ่มกดกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินโดยระบบทั้งหมดจะเชื่อมโยงไปยังแอพพลิเคชั่น สำนักงานขนส่งและกรมการขนส่งทางบกไปตลอดเส้นทางการเดินทางเพื่อให้ผู้ใช้บริการมีความมั่นใจในการให้บริการ เมื่อผู้โดยสารเรียกใช้บริการ ข้อมูลต่างๆก็จะไปปรากฏในระบบของสำนักงานขนส่ง และการขนส่งทางบกไปพร้อมๆกัน
ทำให้ผู้ใช้บริการมีความมั่นใจและหากไม่ได้รับการอำนวยความสะดวกหรือเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถกดปุ่มแจ้งได้ซึ่งระบบก็จะแจ้งไปยังทุกหน่วยงาน เซ็กซี่บาคาร่า