แม่คลอดลูกแฝด 10 คน ทำลายสถิติโลก

แม่คลอดลูกแฝด 10 คน ทำลายสถิติโลก

3 หญิง 7 ชาย คุณแม่ในแอฟริกาใต้ ผุดสถิติโลก คลอดลูกแฝด 10 คน รอ กินเนส เวิลด์ เรคคอร์ดส์ ออกใบประกาศอย่างเป็นทางการ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที 7 มิ.ย. 64 ตามเวลาท้องถิ่น นางโกเซียเม ธามารา ซิตโฮล วัย 37 ปี ให้กำเนิดทารกแฝด 10 คน ด้วยวิธีการผ่าคลอด ที่โรงพยาบาลใน กรุงพริทอเรีย เมืองหลวงของแอฟริกาใต้ จากรายงานของเดอะ มิร์เรอร์

นางโกเซียเม เล่าว่า “ตอนแรกที่ตั้งท้อง หมอบอกกับเธอว่าเป็นลูกแฝด 6 คน แต่พอทำการอัลตร้าซาวนด์ พบว่ามี 8 คน แต่พอคลอดจริงกลับออกมา 10 คน”

การคลอดลูกแฝด 10 คนเที่ยวนี้ จากรายงาน เผยว่า เป็นเด็กผู้ชาย 7 คน เด็กผู้หญิง 3 โดยเป็นการคลอดก่อนกำหนดในช่วง 29 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ นางโกเซียเม ซึ่งประกอบอาชีพเป็นผู้จัดการร้านค้าปลีกแห่งหนึ่งในเมือง เธมบิซา (Thembisa) เคยให้กำเนิดทารกแฝดมาแล้วก่อนหน้า 2 ราย กับสามี เตโบโฮ โซเตตซี

การตั้งครรภ์เที่ยวนี้เธอเล่าว่าต้องเจอกับความยากลำบากทีเดียว เพราะช่วงต้นปี เธอทั้งเผชิญกับอาการป่วย ปวดขาและมีอาการเสียดท้อง

ด้าน กินเนส เวิลด์ เรคคอร์ดส์ กำลังตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อบันทึกสถิติใหม่การมีลูกแฝดมากที่สุดในโลก หากเป็นเรื่องจริง โดยก่อนหน้านี้สถิติหญิงคลอดลูกแฝดมากที่สุดเป็นของ คุณแม่ ฮาลิมา ซิสเซ หญิงชาวมาลี ซึ่งเคยคลอดลูกแฝด 9 คน ที่โมร็อกโก เมื่อเดือนที่แล้ว

“ส่วนทิศทางการเมืองจะเป็นอย่างไร คิดว่าปีนี้เราจะพยายามทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะออกไปให้ได้ ต้องเก็บชัยชนะแรกให้ได้ก่อน” นายไชยอมรกล่าว

ขณะที่ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า พฤติการณ์ที่พนักงานสอบสวนบรรยายว่ามีความผิดตามมาตรา 112 คือ การร้องเพลงดัดแปลงพร้อมกับ “ฟ้า” พรหมศร วีระธรรมจารี ซึ่งไชยอมรได้ดัดแปลงเพลง “วัน ทู ทรี โฟร์ ฟาย [….] ซิก เซเว่น เอ้ก ไนน์ […]”

จากพฤติการณ์ดังกล่าว พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาว่าได้ “ร่วมกัน” หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือ แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

ตร.เผยพบหนุ่มโยนศีรษะที่ถูกตัดขาดใส่คูหา เลือกตั้งเม็กซิโก ขณะที่เกิดความรุนแรงในพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศในช่วงวันเลือกตั้งที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน สำนักข่าว ยาฮู ได้รายงานว่ามีชายได้ขว้างศีรษะที่ถูกตัดขาดใส่คูหาเลือกตั้งกลางเทอมที่เมือง ตีฮัวนา ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าพวกเขาพบชิ้นส่วนของร่างกายถูกทิ้งไว้ในบริเวณใกล้เคียง

เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้เปิดเผยว่าผู้ก่อเหตุได้หลบหนี แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ระบุชัดเจนว่าพวกเขาสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้หรือไม่ นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบว่าการกระทำดังกล่าวมีความหมายอะไรและยังไม่มีการเปิดเผยแน่ชัดว่า ศีรษะที่ถูกตัดเป็นศีรษะของใคร

โดยการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้ถือเป็นการเลือกตั้งที่มีความรุนแรงมากที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยระบุว่ามีนักการเมืองถูกสังหาร 97 ศพ และถูกโจมตี 935 คน นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่ามีเจ้าหน้าที่ประจำคูหาถูกยิงเสียชีวิตอย่างน้อย 5 ศพ

ซึ่งสำนักข่าว BBC คาดว่า นาย อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ประธานาธิบดีเม็กซิโกคนปัจจุบันจะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ อย่างไรก็ตามพรรคของนายโอบราดอร์ได้ที่นั่งในทำเนียบน้อยลง โดยสาเหตุหลักๆมาจากการรับมือวิกฤติของโรคโควิด-19 และล้มเหลวในการปราบปรามยาเสพติด

สุดสลด! คนร้ายตั้งใจขับ รถชน ครอบครัวมุสลิม ดับเกือบยกครัว

เกิดเหตุสุดสลดขึ้น เมื่อชายชาวแคนาดาตั้งใจขับ รถชน เข้ากับ ครอบครัวมุสลิม จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 ศพ และทำให้เด็ก 9 ขวบบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า เกิดเหตุรถบรรทุกพุ่งชนครอบครัวชาวมุสลิมที่กำลังรอข้ามถนนแห่งหนึ่งในนครลอนดอน รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา เมื่อช่วงเย็นของวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น  ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุสลดครั้งนี้จำนวน 4 ศพ และมีเด็กชายวัย 9 ขวบได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าเด็กชายคนดังกล่าวไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุม นาย นาธาเนียล เวลท์แมน ชายท้องถิ่นวัย 20 ปี ซึ่งจากการตรวจสอบหลักฐานพบว่าเหตุครั้งนี้มีการวางแผนมาก่อน และเป็นเหตุอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชัง เนื่องจากเจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายขับรถพุ่งใส่เหยื่อเนื่องจาก ผู้เสียชีวิตนับถือศาสนาอิสลาม นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังไม่พบอีกว่าคนร้ายรู้จักกับผู้เสียชีวิตมาก่อน

จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ในช่วงเดือนมีนาคมของปีนี้เกิดเหตุอาชญากรรมความเกลียดชังกับกลุ่มชาวมุสลิมมากขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2019 โดยในปีนี้พบเหตุลักษณะดังกล่าว 181 ครั้ง ขณะที่ในปี 2019 พบเหตุอาชญากรรมความเกลียดชัง 166 ครั้ง ด้านนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาได้ออกมาร่วมไว้อาลัยกับเหตุสลดครั้งนี้ พร้อมให้กำลังใจเด็กชายวัย 9 ขวบทีกำลังพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาล

เจ้าคางคก หรือ โรเบิร์ตมีสภาพอิดโรย และมันกระโดดเข้าน้ำอย่างไว โดยเจ้าโรเบิร์ตอยู่บนเครื่องบินนาน 13 ชั่วโมง ฮันนาห์รอเพื่อนให้มารับเธอและขับรถกลับบ้านอีก 22 ชั่วโมง ซึ่งทางสมาคมต่อต้านการทารุณกรรมสัตว์ก็แจ้งมาว่าพวกเขาสามารถรับโรเบิร์ตได้เร็วที่สุดในวันถัดมา

เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง